ผลไม้ภาคอีสาน
ผลไม้พื้นบ้านภาคอีสาน ซึ่งมีอยู่ทั่วไปในภาคอีสาน โดยผลไม้เหล่านี้สามารถรับประทานได้ และบางอย่างที่ภาคอื่นก็มีเหมือนกัน อาจจะใช้ชื่อที่แตกต่างกันออกไป อีกอย่างหนึ่ง คนภาคอีสานส่วนใหญ่นิยมใช้คำว่า "บัก" หรือ "หมาก" สำหรับใช้เรียกชื่อผักและผลไม้ต่างๆ เช่น สัปปะรด อาจจะเรียกว่า "หมากนัด" หรือ "บักนัด" ก็ได้ แล้วแต่ความ ( มัก ) ชอบใจ
ผลไม้ที่นำมาแนะนำที่มาจากภาคอีสาน ก็มีตัวอย่าง เช่น ตะขบ (หมากตะขบ) มะขามป้อม (บักขามป้อม) เป็นต้น
ตะขบ
ชื่อสามัญ (Common Name) : Governor plum
ชื่อพฤกษศาสตร์ (Scientific Name) : Flacourtia cataphracta, Roxb.
ชื่อวงศ์ (Family name) : Flacourtiaceae
ชื่ออื่นๆ (Other Name) : มะเกว๋นควาย ครบ
ลักษณะทั่วไป ตะขบไทยเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง แตกกิ่งก้านสาขาที่ยอด ใบลักษณะกลมคล้ายใบพุทรา ผลกลม โตเท่าลูกพรุทรา ผลสุกสีแดงอมดำ
ลักษณะทั่วไป ตะขบไทยเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง แตกกิ่งก้านสาขาที่ยอด ใบลักษณะกลมคล้ายใบพุทรา ผลกลม โตเท่าลูกพรุทรา ผลสุกสีแดงอมดำ
การขยายพันธุ์ ใช้เมล็ดปลูก
ประโยชน์ทางสมุนไพร
ราก ใช้เป็นยาขับเหงื่อ ยาขับเสมหะ
เนื่อไม้ ใช้ปรุงเป็นยาแก้ท้องร่วง แก้บิด มูกเลือดน้ำตะขบไทย ใช้เป็นยาขับเหลื่อ แก้ท้องร่วง และรักษาโรคผิวหนัง
เนื่อไม้ ใช้ปรุงเป็นยาแก้ท้องร่วง แก้บิด มูกเลือดน้ำตะขบไทย ใช้เป็นยาขับเหลื่อ แก้ท้องร่วง และรักษาโรคผิวหนัง
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ไม้ต้นขนาดเล็ก (ExST) สูงประมาณ 5-7 เมตร เปลือกสีเทา กิ่งแผ่สาขาขนานกับพื้นดิน ตามกิ่งมีขนปกคลุม ขนนุ่ม และปลายเป็นตุ่ม ยอดอ่อนเมื่อจับดูรู้สึกเหนียวมือเล็กน้อย
ไม้ต้นขนาดเล็ก (ExST) สูงประมาณ 5-7 เมตร เปลือกสีเทา กิ่งแผ่สาขาขนานกับพื้นดิน ตามกิ่งมีขนปกคลุม ขนนุ่ม และปลายเป็นตุ่ม ยอดอ่อนเมื่อจับดูรู้สึกเหนียวมือเล็กน้อย
ใบ เป็นใบเลี้ยงเดียว เรียงสลับแบบทแยงกัน ลักษณะใบรูปขอบขนานแกรมรูปไข่ ปลายใบเรียวแหลม โคนใบข้างหนึ่งมน ข้างหนึ่งแหลม ขอบใบหยัก มีขนปกคลุมหนาแน่ เส้นใบมี 3-5 เส้น ด้านบนสีเขียวด้านล่างสีนวล ก้านใบยาว มีขน โคนก้านเป็นปม ๆ
ดอก ดอกเดี่ยว ๆ หรือเป็นคู่ เหมือนง่ามใบ เวลาบานมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2 เซนติเมตร ก้านดอกยาว มีขน กลีบรองกลีบดอก 5 กลีบ ไม่ติดกัน สีเขียว รูปหอก ปลายแหลมเป็นหางยาว โคลนกลีบตัดด้านนอกมีขน ด้านในเกลี้ยง กลีบดอก 5 กลีบ สีขาว รูปไข่กลับป้อม ๆ ย่น เกลี้ยง
ผล ลักษณะลูกทรงกลม ผิวบางเรียบ ขนาด 1.5 เซนติเมตร เมื่อสุกมีสีแดง รสหวาน
มีลักษณะเล็ก ๆ จำนวนมาก
นิเวศวิทยา
มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้ ขึ้นทั่วไปตามพื้นที่ในเขตร้อน เกิดตามที่รกร้างว่างเปล่า หรือตามป่าโปร่งทั่วไป นิยมปลูกเป็นไม้ร่มเงาตามบ้านเรือน การปลูกและขยายพันธุ์
มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้ ขึ้นทั่วไปตามพื้นที่ในเขตร้อน เกิดตามที่รกร้างว่างเปล่า หรือตามป่าโปร่งทั่วไป นิยมปลูกเป็นไม้ร่มเงาตามบ้านเรือน การปลูกและขยายพันธุ์
เป็นไม้กลางแจ้งที่ปลูกง่ายโตเร็ว เจริญเติบโตได้ดีในดินทั่ว ๆ ไปขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด หรือต้นที่เกิดขึ้นใหม่
ประโยชน์ทางยา
รสและสรรพคุณในตำรายา
เปลือกต้น รสฝาด เป็นยาระบาย เพราะมีสารพวก Mucilage มากใบ รสฝาดเอียน ใช้ในการขับเหงื่อ ดอก รสฝาด แก้ปวดศีรษะ แก้หวัด ปวดเกร็งในทางเดินอาหาร ลดไข้ ต้มรวมกับสมุนไพรอื่น ๆ เอาน้ำดื่มเป็นยาขับระดู และแก้โรคตับอักเสบ ผล รสหวานเย็น มีกลิ่นหอมบำรุงกำลัง ทำให้ชุ่มชื่นหัวใจ
รสและสรรพคุณในตำรายา
เปลือกต้น รสฝาด เป็นยาระบาย เพราะมีสารพวก Mucilage มากใบ รสฝาดเอียน ใช้ในการขับเหงื่อ ดอก รสฝาด แก้ปวดศีรษะ แก้หวัด ปวดเกร็งในทางเดินอาหาร ลดไข้ ต้มรวมกับสมุนไพรอื่น ๆ เอาน้ำดื่มเป็นยาขับระดู และแก้โรคตับอักเสบ ผล รสหวานเย็น มีกลิ่นหอมบำรุงกำลัง ทำให้ชุ่มชื่นหัวใจ
มะข้ามป้อม
ชื่อสามัญ Indian Gooseberry
ชื่อวิทยาศาสตร์จะใช้คำว่า “Phyllanthus emblica Linn.”
ชื่อวงศ์ EUPHORBIACEAE
เป็นสมุนไพรที่ชาวอินเดียใช้มา หลายพันปีแล้ว เพราะยาอายุวัฒนะ ซึ่งชาวอินเดียเรียกสมุนไพรหรือผลไม้ชนิดนี้ว่า Amalaka แปลว่า “พยาบาล” ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าสรรพคุณของมะขามป้อมนั้นมีมากมาย มะขามป้อม (Indian gooseberry) เป็นต้นไม้ยืนต้นชนิดหนึ่ง ในวงศ์ EUPHORBIACEAE เป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง และมีคุณค่าทางสมุนไพรด้วย มะขามป้อมเป็นต้นไม้ประจำ จังหวัดสระแก้ว มีชื่อพื้นเมืองอื่นอีกคือ กันโตด (เขมร - กาญจนบุรี) กำทวด (ราชบุรี) มะขามป้อม (ทั่วไป) มั่งลู่, สันยาส่า (กะเหรี่ยง - แม่ฮ่องสอน)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก-กลาง สูง 8-12 เมตร ลำต้นมักคดงอ เปลือกนอกสีน้ำตาลอบเทา ผิวเรียบหรือค่อนข้างเรียบ เปลือกในสีชมพูสด ใบเดี่ยว มีลักษณะคล้ายใบประกอบคล้ายใบมะขาม รูปขอบขนานติดเรียงสลับ กว้าง 0.25-0.5 ซม.ยาว 0.8-12 ซม. สีเขียวอ่อนเรียงชิดกัน ใบสั้นมาก เส้นแขนงใบไม่ชัดเจน ดอกขนาดเล็กแยกเพศ แต่อยู่บนกิ่งหรือต้นเดียวกัน ออกตามง่ามใบ 3-5 ดอกแน่น ตามปลายกิ่ง กลีบเลี้ยง 6 กลีบ ดอกสีขาวหรือขาวนวล ผลทรงกลมมีเนื้อหนา 1.2-2 ซม. ผลอ่อนมีสีเขียวอ่อน ผลแก่มีเขียวอ่อนค่อนข้างใส มีเส้นริ้วๆ ตามยาว สังเกตได้ 6 เส้น เนื้อผลรับประทานได้มีรสฝาดเปรี้ยว ขมและอมหวาน เปลือกหุ้มเมล็ดแข็งมี 6 เส้น เมล็ดมี 6 เมล็ด
มะขามป้อม
มะขามป้อม
จัดเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพและเป็นสมุนไพรพื้นบ้านอีกชนิดหนึ่งเพราะมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระอย่างวิตามินซีสูงมาก โดยประโยชน์มะขามป้อมหรือสรรพคุณมะขามป้อมนั้นมีมากมาย และยังใช้ เป็นยารักษาโรคบางชนิดได้อีกด้วย เพราะมะข้ามป้อมนั้นอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดที่ประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น วิตามินเอ วิตามินบี3 วิตามินซี ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และยังประกอบไปด้วย คาร์โบไฮเดรต ใยอาหาร เป็นต้น และคุณรู้หรือไม่ว่าวิตามินซีในน้ำคั้นจากผลของมะข้ามป้อมนั้นมีมากกว่าน้ำส้มคั้นประมาณ 20 เท่า ซึ่งมะขามป้อมลูกเล็กๆ 1 ผล จะมีปริมาณวิตามินซี เท่ากับส้ม 1-2 ผลเลยทีเดียว
ต้นมะขามป้อม
เนื่องจากมะขามป้อมมีรสเปรี้ยว รสฝาด อาจจะรับประทานยากสักหน่อยสำหรับบางคน การรับประทานมะขามป้อมนั้นควรปรุงรสให้อร่อยด้วยการนำมะขามป้อมมาผ่าเอาเมล็ดออกให้เหลือแต่เนื้อ แล้วนำมาใส่ พริก เกลือ น้ำตาล นำมาตำพอแหลกก็ใช้ได้ แต่ทั้งนี้ควรรับประทานก่อนนอนหรือช่วงตื่นนอนใหม่ๆหรือขณะที่ท้องว่าง สำหรับวิธีลดความฝากของมะขามป้อมนั้นทำได้โดยการนำไปแช่น้ำเกลือด้วยการนำ มะขามป้อมมาล้างให้สะอาดและลวกด้วยน้ำร้อนแล้วนำไปแช่ในน้ำเกลือที่เค็มจัดทิ้งไว้ประมาณ 2 วัน รสฝาดก็จะหายไป
มะขามป้อม
ประโยชน์ของมะข้ามป้อม
1. นิยมนำมารับประทานเพื่อให้สดชื่น ชุ่มคอ แก้กระหาย
2. วิตามินซีในมะขามป้อมสามารถดูดซึมได้เร็วกว่าวิตามินซีชนิดเม็ดเป็นอย่างมาก
3. ใช้บำรุงผิวหน้าให้ขาวสดใส รักษาฝ้า ด้วยการนำมะขามป้อมมาฝนกับฝาละมีแล้วนำน้ำที่ได้มาทาบริเวณรอยฝ้า
4. ช่วยบำรุงสุขภาพผิวพรรณ ชะลอการเกิดริ้วรอย
5. ช่วยบำรุงและรักษาเส้นผมให้มีสุขภาพแข็งแรง ผมนุ่มลื่น ป้องกันผมหงอก ด้วยการทอดมะขามป้อมกับน้ำมันมะพร้าว แล้วเอาน้ำมันมาหมักผม
6. ช่วยบำรุงและรักษาสายตา
7. ช่วยในการบำรุงประสาทและสมอง
8. มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
9. เป็นผลไม้ที่ช่วงบำรุงร่างกายได้เป็นอย่างดี โดยช่วยบำรุงอวัยวะแทบจะทุกส่วนของร่างกาย
10. ช่วยบำรุงโลหิตได้เป็นอย่างดี
11. มะขามป้อมมีเป็นยาแก้หวัด แก้ไอ และละลายเสมหะได้อีกด้วย โดยใช้ผลสดประมาณ 30 ผล นำมาคั้นเอาน้ำหรือนำมาต้มทั้งผลแล้วนำดื่มแทนน้ำ ทั้งนี้ควรเลือกมะขามป้อมที่แก่จัดผิวออกเหลืองจะได้ผลดีที่ สุดในการรักษาอาการไอและหวัด
12. ใบสดมะขามป้อม นำมาต้มน้ำอาบลดอาการไข้
13. มะขามป้อมมีฤทธิ์ในการต่อต้านการเกิดโรคมะเร็ง
14. มะขามป้อมตัวช่วยในการลดคอเลสเตอรอล ลดน้ำตาล ลดไขมันในเลือดได้ด้วย
15. ช่วยรักษาและป้องกันการเกิดโรคเลือดออกตามไรฟัน
16. ใช้แก้อาการปวดฟันได้ ด้วยการใช้ปมกิ่งก้านต้มกับน้ำ แล้วนำมาอมบ้วนปากบ่อยๆ
17. รสเปรี้ยวของมะขามป้อมช่วยในการละลายเสมหะและบำรุงเสียงได้เป็นอย่างดี
18. รากแห้งมะขามป้อม นำมาต้มดื่มแก้อาการท้องเสีย ร้อนใน ความดันโลหิต
19. ช่วยในการป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน
20. ช่วยลดอาการแทรกซ้อนทางตาจากโรคเบาหวานได้อีกด้วย
21. มะขามป้อมเป็นส่วนประกอบใช้สำหรับการรักษาและป้องกันไข้วัดใหญ่ วัณโรครักษาภาวะของโรคเอดส์
22. มะขามป้อมแห้ง ช่วยรักษาโรคบิด ใช้ล้างตา รักษาตาแดง ตาอักเสบได้
23. มะขามป้อมแห้ง เมื่อนำมาผสมน้ำสนิมเหล็กจะช่วยแก้โรคดีซ่านได้
24. มะขามป้อมช่วยป้องกันและรักษาโรคความดันโลหิตสูง
25. ช่วยรักษาโรคคอตีบ
26. ช่วยบำรุงปอด หลอดลม หัวใจ และกระเพาะ
27. เมล็ดมะขามป้อม เมื่อนำมาตำเป็นผงชงกับน้ำร้อนดื่มช่วยรักษาโรคหอบ หืด หลอดลมอักเสบ อาการคลื่นไส้อาเจียนได้
28. ช่วยป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร
29. ช่วยป้องกันและรักษาอาการท้องผูก
30. ช่วยยับยั้งความเป็นพิษของตับและไตได้
31. ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ และเป็นยาระบาย และยาถ่ายพยาธิ
32. ยางจากผล ใช้หยอดตาแก้ตาอักเสบ กินเพื่อช่วยในการย่อยอาหาร และขับปัสสาวะ
33. เปลือกมะขามป้อมสามารถนำมาต้มดื่มแก้โรคบิด
34. ช่วยในการปรับประจำเดือนให้มาเป็นปกติ
35. ช่วยรักษาอาการไข้ทับระดูได้
36. ช่วยรักษาโรคน้ำกัดเท้า ด้วยการใช้เปลือกต้นมะขามป้อมป้อมมาตำให้ละเอียดผสมกับน้ำแล้วชะโลมให้ทั่ว
37. ช่วยต่อต้านเชื้อไวรัส แบคทีเรีย เชื้อราได้
38. รากสดมะขามป้อม ช่วยในการแก้พิษจากการถูกตะขาบกัด
39. เปลือกของลำต้นมะขามป้อม ใช้รักษาบาดแผล แก้ฟกช้ำได้ ด้วยการนำเปลือกแห้งมาบดเป็นผงแล้วนำมาโรยบริเวณบาดแผล
40. ต้นและเปลือกของมะขามป้อม ใช้เป็นยาฝาดสมาน
41. เมล็ดของมะขามป้อง เมื่อนำมาเผาไฟจนเป็นเถ้า แล้วนำมาผสมกับน้ำพืชนำมาทาแก้ตุ่มคันได้
42. มะขามป้อมมีฤทธิ์ช่วยป้องกันกล้ามเนื้อหัวใจตายบางส่วน และช่วยลดไขมันในเลือด ต้านมะเร็งและไวรัส
43. ลำต้นมะขามป้อมนั้นมีเนื้อไม้แข็ง ทนทาน จึงเหมาะแก่การใช้ทำเครื่องประดับ เสาเข็ม หรือนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิง
44. ใบแห้ง นำมาย้อมเส้นใย ไหม ขนสัตว์ จะให้สีน้ำตาลเหลือง
45. ดอก ใช้เข้าเครื่องยา มีกลิ่นหอม ใช้เป็นยาเย็นและยาระบาย
46. นำมาใช้ทำเป็นยาสระผม ช่วยให้ผมดกดำและป้องกันผมหงอกก่อนวัยอีกด้วย
47. มะขามป้อมเป็ลผลไม้ที่นำมาแปรรูปได้หลายหลากหลายมาก เช่น อาหารเสริม เครื่องสำอาง ยาแก้ไอ ยาสระผม น้ำมะขามป้อม มะขามป้อมแช่อิ่ม
advertisements
มะขามป้อมแช่อิ่ม
1. วัตถุดิบ ที่ต้องเตรียม มะขามป้อมสด 1 กิโลกรัม / เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ / น้ำตาลใส 4 ช้อนโต๊ะ / น้ำปูนใส
2. ล้างมะขามให้สะอาด แล้วใช้มีดฝานตามยาวของผลให้ทั่ว แต่ไม่ต้องให้ถึงเมล็ด
3. นำเกลือป่นมาใส่หม้อ ใส่น้ำพอประมาณ แล้วต้มจนเดือด
4. เสร็จแล้วนำมาทิ้งไว้ให้เย็น แล้วนำมะขามป้อมแช่ในน้ำเกลือทิ้งไว้ 1 คืน
5. รุ่งเช้าให้นำมะขามป้อมมาล้างน้ำให้สะอาด แล้วแช่ในน้ำปูนใสประมาณ 3 ชั่วโมง
6. น้ำปูนใสได้จากการแช่ปูนแดง แล้วทิ้งไว้ให้ปูนนอนก้น ตักเอาแต่น้ำใสๆมาแช่มะขามป้อม
7. เมื่อแช่จนครบกำหนด นำมาล้างน้ำอีกครั้ง แล้วใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำ ต้มน้ำตาลทรายและใส่น้ำ ต้มให้น้ำเดือด แล้วกรองให้สะอาด ทิ้งไว้ให้เย็น
8. หลังจากนั้นนำมะขามป้อมมาแช่ในน้ำเชื่อมปิดฝาทิ้งไว้ 1 คืน
9. วันที่ 2 มานำมะขามป้อมขึ้นจากน้ำเชื่อม แล้วเติมน้ำตาลลงในเชื่อมแล้วต้มให้น้ำตาลละลาย
10. เมื่อน้ำเชื่อมเย็นแล้ว นำมะขามป้อมแช่อีกรอบ และทำเช่นนี้จนครบ 2 ครั้ง
11. วันที่ 5 นำมะขามป้อมออกเอาแต่น้ำเชื่อมไปต้มให้เดือด ทิ้งไว้จนเย็น แช่มะขามป้อมใส่น้ำเชื่อมอีกจนกระทั่งน้ำเชื่อมซึมเข้าเนื้อมะขามป้อมจนเห็นเป็นเนื้อใสๆ เป็นอันเสร็จรับประทานได้เลย
ลูกมะขามป้อม
แหล่งอ้างอิง : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), กองโภชนาการกระทรวงสาธารณสุข
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น